นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้สมัครงาน บริษัท สยามคูโบต้า ลีสซิ่ง จำกัด

บริษัท สยามคูโบต้า ลีสซิ่ง จำกัด (“บริษัท”) ตระหนักถึงความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย ตลอดจนการดำเนินการอื่นใด กับข้อมูลที่ท่านได้ให้ไว้แก่บริษัท (“ข้อมูลส่วนบุคคล” ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล พ.ศ. 2562) โดยข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกเก็บรักษาในที่ปลอดภัยและเป็นความลับตามที่ได้กำหนดไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ (“นโยบาย”)

หลักการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และดำเนินการด้วยวิธีอื่นใด (“ประมวลผล”) ต่อข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้สำหรับการสมัครงานนี้ (ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลจากใบสมัครงาน หรือจากรูปแบบอื่นที่ท่านได้ให้ไว้ ในส่วนหนึ่งของขั้นตอนการสมัครงาน เช่น ทางโทรศัพท์ หรือการสัมภาษณ์ เป็นต้น)

ทั้งนี้ บริษัทอาจได้รับหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลภายนอก เช่น ผู้สรรหาบุคลากร การอ้างอิงจากนายจ้างคนก่อน หุ้นส่วนทางธุรกิจ ผู้รับจ้างงานช่วงที่ให้บริการด้านสรรหาบุคลากรหรือ ความเชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะด้าน ผู้ให้บริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูล (เช่น บริษัทที่เปรียบเทียบวิชาชีพ) ผู้ให้บริการตรวจสอบประวัติความเป็นมา ผู้ให้บริการด้านการสืบค้นข้อมูล และผู้ให้บริการด้านต่าง ๆ (เช่น บริษัทที่ให้คะแนนความน่าเชื่อถือ) รวมถึงข้อมูลที่เปิดเผยจากแหล่งที่มาที่เป็นสาธารณะ เช่น สื่อสังคมออนไลน์ (เช่น Facebook) ที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นต้น

รูปแบบของข้อมูลส่วนบุคคล

รูปแบบของข้อมูลส่วนบุคคล ตัวอย่างของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทอาจเก็บรวบรวมประกอบไปด้วย

  1. ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวบุคคล เช่น ชื่อ วันเดือนปีเกิด เลขที่หนังสือเดินทาง/เลขบัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ เป็นต้น
  2. ข้อมูลเกี่ยวกับคุณวุฒิและประวัติการทำงานของท่าน เช่น ประกาศนียบัตรจากโรงเรียน/มหาวิทยาลัย ประวัติการเรียน การทดสอบทางวิชาการหรือภาษา หนังสือรับรองและหนังสืออ้างอิง เป็นต้น
  3. ข้อมูลเกี่ยวกับการการสมัครงานของท่าน เช่น ประวัติส่วนตัว ประวัติการเกณฑ์ทหาร ข้อมูล การสัมภาษณ์งาน และหลักฐานอ้างอิงต่าง ๆ เป็นต้น
  4. ข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มการขัดกันของผลประโยชน์ เช่น ผลประโยชน์ในทางธุรกิจอื่นของท่านหรือ ของญาติ ซึ่งอาจขัดแย้งกับผลประโยชน์ของบริษัท หรือมีความสัมพันธ์เกี่ยวกับกับคู่ค้าของบริษัทหรือไม่ เป็นต้น
  5. ข้อมูลเกี่ยวกับคดีความ หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย และประวัติอาชญากรรม เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับ การดำเนินคดีความทางแพ่ง ทางอาญา หรือ ข้อมูลเกี่ยวกับการล้มละลาย เป็นต้น
  6. กรณีได้รับการเสนอตำแหน่งงาน - ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น เช่น เพศ สัญชาติ สถานภาพการสมรส รายละเอียดของบัญชีธนาคาร ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่อยู่ในการดูแลของท่าน ประวัติสุขภาพ และภาพถ่าย เป็นต้น

ข้อมูลที่บริษัทประมวลผลอาจรวมถึง “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” อันหมายถึง ข้อมูลตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และฉบับปรับปรุงแก้ไขตามที่จะมีการแก้ไขเป็นคราว ๆ รวมถึงกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับอื่น เช่น ข้อมูลบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน

โดยในการรับสมัครพนักงาน และขั้นตอนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรับสมัครพนักงาน บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน เช่น ประวัติสุขภาพ, ประวัติอาชญากรรม เป็นต้น

ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังระบุไว้ข้างต้นจำเป็นต่อการพิจารณาเพื่อเลือกรับพนักงาน และดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อสรรหาพนักงาน ว่าจ้างพนักงานทั้งสิ้น ซึ่งหากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต่อ การดำเนินการตามขั้นตอนการรับสมัครพนักงานตามที่ระบุข้างต้น บริษัทจะไม่สามารถดำเนินการพิจารณา รับสมัครงาน และดำเนินการอื่นใดตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องได้

ความถูกต้องของข้อมูล

ท่านรับรองว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้แก่บริษัทนั้น ถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นข้อมูลล่าสุดตามที่บริษัทร้องขอ

การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจ้างงาน รวมถึง

  1. การดำเนินการและการจัดการกับใบสมัครงานของท่าน รวมถึง การจัดการสัมภาษณ์งานและทดสอบ การจัดการประเมิน การประเมินและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องอื่นใดที่จำเป็นสำหรับขั้นตอนการจ้างงาน
  2. การประเมินความเหมาะสมของท่านต่อตำแหน่งหน้าที่ตามที่บริษัทพิจารณาว่าเหมาะสม ตลอดจน การตรวจสอบการอ้างอิงของท่าน ประวัติการทำงาน หรือการตรวจสอบอย่างละเอียด
  3. การกำหนดค่าจ้าง ค่าตอบแทน การจ่ายเงินโบนัส และผลประโยชน์อื่น ๆ
  4. การติดต่อสื่อสารภายในบริษัท
  5. การปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ กฎเกณฑ์ นโยบาย วิธีปฏิบัติ รวมถึงข้อบังคับการทำงานของบริษัท
  6. กรณีได้รับการเสนอตำแหน่งงาน - ตรวจสอบประวัติก่อนการจ้างงาน และประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับท่าน

(รวมกันเรียกว่า “วัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้อง”)

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจเปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังกลุ่มบุคคลดังต่อไปนี้ (“ผู้รับโอนข้อมูล” (ซึ่งบุคคลดังกล่าวอาจอยู่ในหรือนอกประเทศของท่าน) เพื่อวัตถุประสงค์ ที่เกี่ยวข้องอย่างใดอย่างหนึ่งหรือมากกว่า)

  1. บริษัทในเครือ ซึ่งหมายรวมถึง บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท คูโบต้า รีเสิร์ช แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ เอเชีย จำกัด บริษัท คูโบต้าคอร์ปอเรชั่น (ญี่ปุ่น) ในฐานะผู้ถือหุ้น บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด และ บริษัทในเครือในกลุ่มของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (ในฐานะผู้ถือหุ้น) หรือบริษัทที่ตั้งขึ้นใหม่ซึ่ง บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ บริษัท สยามคูโบต้า ลีสซิ่ง จำกัด เป็นผู้ถือหุ้น
  2. ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษา ที่ปรึกษา คู่สัญญา ผู้รับจ้างงานช่วง และผู้ให้บริการซึ่งเป็นคู่สัญญาฝ่ายที่สาม รวมถึง เช่น ผู้สรรหาบุคลากร บริษัทที่เป็นเจ้าของ สนับสนุน และ/หรือดูแลรักษาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท หรือ โปรแกรมที่ช่วยในการสรรหาบุคลากร และระบบของ ฝ่ายทรัพยากรบุคคลอื่น ๆ (รวมถึงการคำนวณระบบค่าตอบแทนและผลประโยชน์) และบริษัท ที่ตรวจสอบการอ้างอิงของท่าน รับรองการตรวจสอบประวัติ และดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด ในนามของบริษัท เป็นต้น
  3. หน่วยงานราชการ หน่วยงานผู้มีอำนาจควบคุมกฎเกณฑ์ต่าง ๆ เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมาย ศาล และเขตอำนาจศาล

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกโอนไปยังที่อื่น ก็ต่อเมื่อบริษัทมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลได้ถูกเก็บรักษาไว้ อย่างปลอดภัยตามระดับความคุ้มครองที่เหมาะสม และเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น

การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลของผู้สมัครที่ไม่ได้รับคัดเลือก เพื่อวัตถุประสงค์ ในการจ้างงานในอนาคต เป็นระยะเวลา 10 ปีนับจากวันที่ไม่ได้รับคัดเลือก ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายการเก็บรักษาข้อมูลของบริษัท หรือตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับได้กำหนดหรืออนุญาต บริษัทอาจเปิดเผยใบสมัครงานและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบริษัทในเครือ เพื่อการพิจารณาหากมีตำแหน่งงานที่เหมาะสมเกิดขึ้น ในช่วงเวลานั้น

สิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ท่านมีสิทธิดังนี้

  1. ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่กฎหมายจะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ การถอนความยินยอมดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ ความยินยอมโดยชอบด้วยกฎหมายทก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว
  2. ท่านมีสิทธิขอให้บริษัท ดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความครอบครอง หรือการควบคุมของบริษัท หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้
  3. ท่านมีสิทธิขอให้บริษัท โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้ทั่วไป ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานโดยอัตโนมัติไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ทั้งนี้ โดยขึ้นอยู่กับข้อยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด
  4. ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้บริษัท ระงับการใช้ข้อมูล ส่วนบุคคลนั้น ทั้งนี้ บริษัท จะดำเนินการตามคำขอตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  5. ท่านมีสิทธิขอเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยบริษัท จะดำเนินการตามคำขอของท่านภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอ เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
  6. ท่านมีสิทธิขอให้บริษัท ดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน ทั้งนี้ ในทุกขั้นตอนการปฏิบัติงาน บริษัท จะดำเนินการตรวจสอบเท่าที่เป็นไปได้เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการมีความถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน
  7. ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ติดต่อเรา

หากท่านประสงค์จะสอบถามเกี่ยวกับนโยบายและวิธีปฏิบัติของบริษัทต่อข้อมูลส่วนบุคคล หรือยื่นคำขอเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ประสงค์ให้บริษัทจัดการ ท่านสามารถส่งคำถามหรือคำขอมาที่ E-mail : skl_g.dpo@kubota.com

หากท่านประสงค์จะสอบถามเกี่ยวกับนโยบายและวิธีปฏิบัติของบริษัทต่อข้อมูลส่วนบุคคล หรือยื่นคำขอเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ประสงค์ให้บริษัทจัดการ ท่านสามารถส่งคำถามหรือคำขอมาที่ E-mail : skl_g.dpo@kubota.com

การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบาย

บริษัทอาจทบทวนและปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ได้เป็นครั้งคราวไป เช่น เพื่อให้มีความสอดคล้องเมื่อมีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย รวมถึงกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ มีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับเทคโนโลยีของบริษัท เป็นต้น ทั้งนี้ เมื่อมีการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ




กลับสู่ด้านบน